ตร.เร่งล่าคนขับรถแท็กซี่ อุ้มผู้โดยสารทิ้งข้างทาง ย่านสรงประภา ดอนเมือง ก่อนเสียชีวิต พยาน เผย เห็นแท็กซี่คันดังกล่าว อุ้มร่างลงมาทิ้งก่อนขับรถออกไป ด้าน ตร.โทรศัพท์ไปเสียงปลายสายบอกว่าพร้อมจะมาให้การแล้วก็ติดต่อไม่ได้อีก
วันนี้ 7 ก.พ. ร.ต.อ.ชญาสิทธิ์ พามา พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง รับแจ้งเหตุ พบผู้นอนหมดสติอยู่ริมฟุตปาธ บริเวณด้านหน้าโรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) ถนนสรงประภา แขวงและเขตดอนเมือง กรุงเทพฯ ก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม รถพยาบาลหัวเฉียวพิทักษ์ชีพ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่เกิดเหตุ บริเวณด้านหน้าโรงเรียนสีกัน(วัฒนานันท์อุปถัมภ์) มีประชาชนกำลังมุงดูอยู่เป็นจำนวนมาก พบนายพงศพัส ซิ้ววงค์ อายุ 49 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 567 ถนนเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นถนนเลนซ้ายสุด เจ้าหน้าที่ จึงให้การช่วยเหลือปั๊มหัวใจ เป็นการด่วนใช้เวลานานกว่า 30 นาที แต่ไม่เป็นผลชีพจรหยุดเต้นเสียชีวิต ในเวลาต่อมา
ร.ต.อ.ชญาสิทธิ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ ขอสงวนชื่อ-นามสกุล คนขับแท็กซี่ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่กำลังขับรถอยู่บนถนนสรงประภา ขาออก สังเกตเห็น รถแท็กซี่สีฟ้า จอดอยู่ข้างทาง ตรงจุดเกิดเหตุ โดยคนขับกำลังอุ้มผู้โดยสารลงมาจากรถ พยานจึงพยายามจอดรถเพื่อลงไปสอบถามและให้การช่วยเหลือ แต่เนื่องจากรถติดจึงได้ขับเลยไปจอดข้างหน้า ประมาณ 20 เมตร ก่อนจะเดินกลับมาพบว่ารถแท็กซี่คันดังกล่าว ได้ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยพบว่า มีชายรูปร่างท้วมนอนอยู่ริมถนน ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปดูพบว่า ชายคนดังกล่าว นอนหายใจรวยรินอยู่ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ร.ต.อ.ชญาสิทธิ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบทรัพย์สินผู้เสียชีวิตพบว่า โทรศัพท์มือถือได้หายไป และจากการตรวจสอบเอกสารในตัวผู้เสียชีวิต พบว่า มีเบอร์โทรศัพท์อยู่เจ้าหน้าที่จึงโทรไปตามหมายเลขดังกล่าวพบว่า โชเฟอร์แท็กซี่คันต้องสงสัยได้รับสาย พร้อมบอกว่า จะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ก่อนจะวางสายไปทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ ยังไม่ได้สอบถามรายละเอียด หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ต้องนำศพ นายพงศพัส ส่งสถาบันนิติเวชรพ.ภูมิพล ตรวจหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง และได้ประสานไปยังฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตรงจุดเกิดเหตุแล้ว หากพบรถแท็กซี่คันดังกล่าวเมื่อใด ก็จะดำเนินการออกหมายเรียกผู้ขับขี่มาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง หากออกหมายเรียกแล้ว 2 ครั้ง ยังไม่มาพบก็จะขออนุมัติหมายจับ ต่อไป
