ฮือฮารักอมตะ!! พ่ออุ้ย-แม่อุ้ยครองคู่นานถึง 91 ปี เผยเคล็ดรักยืนยาว-ยกเป็นแบบอย่าง

 เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 3 บ้านแม่แมะ หรือบ้านจอมคีรี ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สองสามีภรรยา อายุเท่ากัน คือย่างเข้า 105 ปี ที่ครองรักกันมายาวนานถึง 91 ปี ได้ออกมาผิงไฟที่ลานบ้าน เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น ทั้งสองดูเหมือนจะมีความสุขต่างผิงไฟและต่างคิดถึงอดีตที่ผ่านมา คิดถึงลูกหลาน แล้วทั้งสองผู้เฒ่าก็อมยิ้ม มองตากัน ลักษณะมองตาก็รู้ใจ ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย อากาศที่หนาวเย็นทำให้ทั้งคู่ต้องใช้ไฟผิงในการทำให้ร่างกายอบอุ่น เนื่องจากผ้าห่มไม่อาจต้านความหนาวเย็นได้เท่ากับไฟที่ผิง
 เป็นภาพที่ทั้งชาวบ้านลูกหลานในละแวกนี้จะชินตา กับสองผู้เฒ่าสามีภรรยา ที่ออกมาผิงไฟในตอนเช้าเป็นประจำ ภาพแห่งความประทับใจของชาวบ้านในละแวกนั้น และผู้คนที่ผ่านมาพบเห็น ประจวบกับใกล้ถึงวันวาเลนไทน์ ยิ่งทำให้ภาพสองผู้เฒ่านั้น เพิ่มพลังแห่งความรักอันยืนยาวให้กับหนุ่มสาวให้ได้นำไปเป็นแบบอย่าง

 ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปพบและสอบถามสองตายาย คู่รักแห่งปีที่กำลังผิงไฟ ในหมู่บ้านเล็กๆ ดังกล่าวที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ทราบชื่อผู้เฒ่าคู่รักอันยืนยาว คือ นายปัน แก้วใจมา อายุ 105 ปี และ นางติ๊บ แก้วใจมา อายุ 105 ปี เท่ากัน สองตายายได้นำบัตรประจำตัวประชาชนให้กับผู้สื่อข่าวดู โดยบัตรประชาชนดังกล่าวได้ทำใหม่อีกครั้ง ระบุทำเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2552 วันเกิดและวันที่ ไม่ระบุ ระบุแต่ พ.ศ. เกิด 2454 และ ค.ศ.1911 เป็นบัตรประจำตัวตลอดชีพ
โดยบ้านของแม่อุ้ยและพ่ออุ้ย นั้นเป็นบ้านหลังเล็กๆ ยกสูงเล็กน้อยมีระเบียงบ้าน โดยมีลูกหลานของผู้เฒ่าทั้งสองคอยสลับกันแวะเวียนกันมาดูแลอย่างใกล้ชิด

 พ่ออุ้ยปัน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ได้แต่งงานกับแม่อุ้ยติ๊บ ตั้งแต่อายุ 16 ปี และอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่นั้น จนถึงปัจจุบันก็ได้ 91 ปี มีลูกหลาน เหลน กว่า 100 คน มีหลายคนที่ไปมีครอบครัว และไปอยู่ต่างถิ่น แต่ลูกหลานก็ยังกลับมาหาเสมอ ล้มหายตายจากไปบ้างก็มี จะมีการส่งข่าวคราวให้ตลอด โดยลูกหลาน ส่วนบัตรประจำตัวประชาชนที่ทำล่าสุดเมื่อปี 2552 ไม่ได้ระบุวันที่ วันเกิด นั้น เนื่องจากสมัยโน้น การทำบัตรประชาชนนั้น การเดินทางไปทำลำบากและไกล จึงไม่ได้ไปทำ พ่อแม่ได้บอกไว้เรื่องปี พ.ศ.เกิด เท่านั้น และก็จำ พ.ศ.เกิดกันมาไม่เคยลืม ส่วนวัน , วันที่ ไม่ได้จำ
พ่ออุ้ยปัน เปิดเผยว่า ตนกับภรรยานั้นมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ไม่มีโรคประจำตัว สามารถเดินไปไหนมาไหน ทำกิจวัตรต่างๆ ได้ตามปกติ ก็จะมีแต่แม่อุ้ยติ๊บ ภรรยาของตน ถึงแม้ว่าจะไม่มีโรคประจำตัว แต่ด้วยวัยและอายุที่มากทำให้แม่อุ้ยนั้น เมื่อปีที่แล้วเคยหกล้มในห้องน้ำ ทำให้ไม่สามารถเดินได้ตามปกติ จึงต้องนอน นั่งอยู่บนเตียง และมีลูกหลานคอยช่วยเหลือเวลาเข้าห้องน้ำหรือพาออกมานั่งผิงไฟที่ระเบียงกับตน คือ ลูกหลานคอยดูแลตลอด ตนกับแม่อุ้ยติ๊บ ตายังดี หูยังดี

 พ่ออุ้ยปัน ยังได้เล่าถึงอดีตอย่างมีความสุขให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า แต่งงานกับแม่อุ้ยติ๊บมา จนมีลูกทั้งหมด 8 คน ล้มหายตายจากไปบ้างก็มี ปัจจุบันเหลืออยู่ 5 คน เสียชีวิตไป 3 คน มีลูกหลาน เหลน และญาติพี่น้องมากกว่า 100 คน สมัยก่อนนั้น ตนเคยเป็นลูกหาบให้กับทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ค่าแรงครั้งละ 5 บาท โดยตนได้หาบของไปส่งยังฝั่งประเทศพม่า ที่มีชายแดนติดกับ อ.เชียงดาว

 ตนกับภรรยา ก็พบรักกันที่นี่และก็อยู่ที่นี่ ที่ อ.เชียงดาว หมู่บ้านแห่งนี้มาตลอด จนถึงปัจจุบัน เราทั้งสองไม่มีทะเลาะกัน เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่เคยคิดนอกใจ ถึงแม้บางครั้งจะมีอะไรมายั่วยวนตา และจิตใจ แต่ด้วยความที่ซื่อสัตย์ และยึดมั่นต่อคู่ครองเชื่อใจกัน คอยให้กำลังใจ ปลอบใจซึ่งกันและกัน

 พ่ออุ้ยปันและแม่อุ้ยติ๊บ แก้วใจมา กล่าวว่า การที่อายุยืนมาทุกวันนี้ ได้รับประทานผักที่เก็บตามรั้วบ้าน และชอบกินปลา ส่วนใหญ่ทุกมื้อกินผักจิ้มน้ำพริก ที่สำคัญ ออกไปทำงานและออกกำลังกาย ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และรักษาศีลห้าอย่างเข้มงวด เมื่อก่อนก็ชอบไปฟังเทศน์ที่วัด แต่พออายุมากขึ้น ก็จะใช้วิธีสวดมนต์เองบ้าง และให้ลูกหลานเปิดวิทยุเทปธรรมะให้ฟัง และให้การช่วยเหลือผู้อื่นบ้างตามสมควรตามกำลัง เอื้ออาทรต่อคนอื่น ไม่มีเรื่องกับใคร
ด้านลูกหลานของพ่ออุ้ยแม่อุ้ย เปิดเผยว่า พ่ออุ้ยและแม่อุ้ยนั้น ถือว่าท่านทั้งสองได้ให้ความสุขเป็นที่นับถือของลูกหลานตลอดจนชาวบ้านในหมู่บ้าน ทั้งใกล้และไกลที่หลายคนนำเป็นแบบอย่างที่ดี พร้อมกันนี้พ่ออุ้ยปันและแม่อุ้ยติ๊บ แก้วใจมา มักจะให้พรแก่คู่รัก ที่เดินทางมาหามาขอพร โดยท่านทั้งสองไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยเลย ใครมาขอให้พร ท่านก็ให้ และยิ่งหากเป็นวันแห่งความรัก เดือนกุมภาพันธ์ มีชาวบ้าน และลูกหลาน มาขอพร ท่านก็จะให้พร ให้รักกันเหมือนกับท่าน


 ด้านนางฝน แก้วใจมา ลูกสาวของพ่ออุ้ยแม่อุ้ย กล่าวว่า พ่อแม่ดูแลสุขภาพดีทั้งคู่ เวลากินอาหารจะเลือกกินผักที่ปลูกเองในสวนหลังบ้าน และทานยาสมุนไพรที่ทำขึ้นเอง ไม่ชอบทานอาหารรสจัด ไม่กินเค็มและไม่ชอบอาหารที่ใส่ผงชูรส

 ส่วนเคล็ดลับการครองคู่กันมายาวนานถึง 91 ปี คือ ความเข้าใจ ความใส่ใจ ห่วงใยและเอื้ออาทรต่อกัน โดยในเทศกาลสำคัญ อาทิ ปีใหม่และสงกรานต์ ลูกหลานจะกลับมารวมตัวกัน เพื่อขอพรจากพ่ออุ้ยปันและแม่อุ้ยติ๊บ เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต

 ตอนนี้ก็มีหน่วยงานราชการ ทั้งนายอำเภอและลูกหลาน ต่างเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด และบ้างก็เดินทางมาขอพรจากแม่อุ้ยพ่ออุ้ย เพื่อเป็นสิริมงคล ถือว่าเป็นคู่รักอมตะ ที่มีอายุมากที่สุดในประเทศไทยและอยู่กันมายาวนานที่สุดเลยก็ว่าได้

Share :

Facebook Twitter Google+
Back To Top