เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 8 ก.พ. ร.ต.อ.วิสวัส ไพบูลย์ พนักงานสอบสวน สภ.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง รับแจ้งเหตุมีเด็กถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 2 บ้านตันหยงสตาร์ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง หลังรับแจ้งเหตุ ได้รายงานให้ พ.ต.อ.ทรงเกียรติ ทองสง ผกก.สภ.ปะเหลียน และ พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง ทราบ จากนั้นได้ประสานไปยัง แพทย์โรงพยาบาลปะเหลียน กู้ภัยปะเหลียน เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปะเหลียน และ ชุดสืบสวน กก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย นายบุญชัย สมใจ นายอำเภอปะเหลียน นายสมชาย ท้ายห้วน กำนันตำบลท่าข้าม และกำลังกว่า 50 นาย เดินทางมาสมทบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น พบคนร้าย ทราบชื่อ คือ นายพรพิชิต (ดำ) หยงสตาร์ อายุ 40 ปี อยู่หมู่ 2 บ้านตันหยงสตาร์ ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน ซึ่งหลบซ่อนอาศัยอยู่ภายในบ้าน ไม่ยอมออกจากบ้าน เนื่องจากได้ก่อคดียิงลูกตัวเอง จำนวน 4 คน เสียชีวิตทั้งหมด โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมบ้าน เพื่อที่จะเจรจากับคนร้าย ที่มีอาการเครียดวิตกอย่างหนัก จนคลั่งยิงลูกตัวเองเสียชีวิตถึง 4 ศพรวด
ภายในบ้านชั้นสอง ซึ่งเป็นห้องนอน พบศพเด็กเสียชีวิต จำนวน 4 คน ซึ่งเป็นลูกของ นายพรพิชิต ประกอบด้วย ด.ญ.พัชราภรณ์ อายุ 14 ปี เรียนอยู่โรงเรียนปะเหลียนผดุงศิษฐ์ คนที่สอง ด.ช.วัชรพงษ์ หยงสตาร์ อายุ 12 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านหยงสตาร์ (เป็นนักกีฬาโรงเรียน) คนที่สาม ด.ญ.พัชรินทร์ อายุ 5 ปี และคนที่สี่ ด.ช.พัฒนยุ อายุ 3 ขวบ เรียนอยู่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทุ่งรวงทอง
สภาพศพทั้งหมดโดนยิงด้วยอายุปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 แมกกาซีน กระสุนเจาะศีรษะ ทั้ง 4 คน ขณะที่เด็กๆ กำลังนอนหลับ สภาพสุดน่าเวทนา โดยนอนเสียชีวิตเรียงรายบนที่นอน
จากการสอบสวนในเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 5 เดือน นายพรพิชิต มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง และได้หย่าร้างกับ นางสุภัทรา ภรรยา อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นมารดาของเด็กทั้ง 4 คน ต่อมาได้เดินทางไปทำงานกับน้าสาว ที่จังหวัดนครราชสีมา
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ก.พ. นายพรพิชิต เดินทางกลับบ้าน โดยที่ช่วงเย็นวันที่ 7 ก.พ. ซึ่งเป็นวันเทศกาลตรุษจีน นายพรพิชิต ได้พาลูกทั้ง 4 คน ไปทานอาหารเย็น และได้โทรศัพท์หานางสุภัทราหลายครั้ง แต่ไม่รับสาย
ขณะที่ภรรยาไม่ได้ไปร่วมรับประทานอาหารด้วย จากนั้นได้นำลูกทั้ง 4 คนกลับบ้าน จนกระทั่งเวลา ประมาณ 02.30 น. วันที่ 8 ก.พ. ขณะที่ลูกๆ นอนหลับ นายพรพิชิต ได้นำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 แมกกาซีน จ่อยิงลูกของตัวเองบริวณศีรษะที่ละคนจนเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว พร้อมพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมนายพรพิชิต เพื่อให้เข้ามอบตัว แต่ยังไม่สามารถเจราจาได้ และหวั่นเกรงว่านายพรพิชิต จะฆ่าตัวตาย เพื่อหนีความผิด
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.35 น. พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บังคับบัญชาภาค 9 ได้เดินทางลงมายังพื้นที่เกิดเหตุแล้ว
พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า มูลเหตุในครั้งนี้น่าจะเกิดมาจากความเครียดอันเนื่องมาจากปัญหาภายในครอบครัว โดยเฉพาะล่าสุดหลังจากที่ผู้ต้องหาทราบข่าวว่า นางสุพัตรา อายุ 38 ปี จะไปมีสามีใหม่ หลังจากที่ทั้งคู่มีปัญหาความขัดแย้งกัน และฝ่ายภรรยาได้แยกออกไปอาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ปะเหลียน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามจะหาทางเจรจา เพื่อให้ผู้ต้องหามอบตัว โดยนำญาติๆ และผู้นำชุมชนมาช่วยพูดคุย แต่หากไม่ได้ผลก็คงต้องบุกเข้าชาร์จจับกุมตัวต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้น่าจะเกิดขึ้นเวลาประมาณ 02.00 น. เมื่อเพื่อนบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 3-4 นัด แต่ต่างก็ไม่เอะใจว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งเมื่อเวลา 08.00 น. ได้มีเพื่อนบ้านรายหนึ่งเดินเข้าไปยังบ้านที่เหตุ และพบศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่ในห้องนอน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่าผู้ต้องหาน่าจะฉวยโอกาสที่ลูกๆ กำลังนอนหลับสนิท ใช้อาวุธปืนจ่อยิงเข้าที่บริเวณศีรษะคนละ 1 นัด อย่างเลือดเย็น ก่อนที่จะเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในขนำหลังบ้าน เพียงลำพังจนถึงตอนเช้า
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. ผู้ต้องหาได้เจรจาต่อรองเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่นำตัวภรรยา คือ นางสุพัตรา มาพบยังบริเวณขนำที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่เกรงว่าอาจจะได้รับอันตราย จึงปฏิเสธไป เพราะมีแนวโน้มที่ผู้ต้องหาซึ่งกำลังเกิดความเครียดจัด จะใช้อาวุธปืนยิงภรรยา แล้วยิงตัวเองตาม ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงประสานขอกำลังจากภาค 9 มาสบทบ เพื่อวางแผนบุกเข้าชาร์จตัวผู้ต้องหา ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปในขนำ เพื่อให้ผู้ต้องหาวิ่งออกมา และหากต่อสู้ ก็อาจจะมีการยิงกระสุนยาง แล้วเข้าทำการล็อกตัวเอาไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดำ ผู้ก่อเหตุ ยังได้โพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับภรรยา พร้อมทั้งบอกด้วยว่า เรื่องนี้ต้องจบด้วยความเศร้า เป็นลางบอกเหตุ ก่อนลงมือสังหารโหดลูกทั้ง 4 ของตัวเองเสียชีวิตสลดคาบ้าน
